วันที่ 30 ส.ค. 66 นายเกษมสันต์ เครือเจริญ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองแรงงานนอกระบบ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวภายหลังรับหนังสือข้อเรียกร้องจากแนวร่วมไรเดอร์วันนี้ ว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้รับทราบปัญหาของกลุ่มไรเดอร์ โดยได้มีการเชิญแพลตฟอร์มและไรเดอร์ค่ายต่างๆ มาพูดคุย เพื่อเก็บข้อมูลและหาแนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้มีการยกร่าง พ.ร.บ.แรงงานนอกระบบ ร่างกฎหมายนี้ครอบคลุมถึงกลุ่มไรเดอร์ด้วย ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้อยากให้ไรเดอร์สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 หรือมาตรา 40 เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ส่วนการพูดคุยกับแพลตฟอร์มมีความคืบหน้าโดยทางแพลตฟอร์มมีการจัดทำประกันให้ไรเดอร์ แต่ให้การคุ้มครองเฉพาะช่วงเวลาทำงานส่งอาหารให้กับแพลตฟอร์ม ซึ่งอยากให้ขยายเวลาทั้งก่อนและภายหลังส่งอาหาร ที่เป็นการยืดระยะเวลาให้คุ้มครองยาวขึ้น 

ขณะที่ น.ส.สุภาพร พันธ์ประสิทธิ ตัวแทนกลุ่มไรเดอร์ กล่าวว่า กลุ่มไรเดอร์ แพลตฟอร์มต่างๆอยู่ในสถานะทำงานที่มีความเสี่ยงอันตรายจากการวิ่งรถส่งอาหารที่ต้องทำงานแข่งขันกับเวลา ซึ่งพบว่าเกิดอุบัติเหตุในขณะทำงานรายวัน มีการเสียชีวิต บาดเจ็บ และทุพพลภาพ ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากคู่กรณี รวมถึงแพลตฟอร์มที่ทำงาน ส่วนสภาพการทำงานของไรเดอร์ ไม่ใช่อาชีพอิสระ เพราะมีเงื่อนไขในการทำงานมากมาย มีการหักเปอร์เซ็นที่ไม่ต่างจากแรงงานในระบบ ซึ่งไรเดอร์คือลูกจ้าง ส่วนเป้าหมายที่มาเรียกร้องในวันนี้ ให้รัฐบาลใหม่และกระทรวงแรงงานออกมาตรการควบคุมแพลตฟอร์มคุ้มครองสวัสดิภาพและค่าตอบแทนของไรเดอร์ รวมทั้งต้องการให้มีกองทุนเงินทดแทน เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของไรเดอร์ และดูแลครอบครัวในระยะยาว เมื่อเกิดเหตุต้องการเงินชดเชยทันที เพราะครอบครัวไม่มีรายได้และไม่มีจะกิน 

นอกจากผู้แทนไรเดอร์แล้ว ยังได้มีครอบครัวของน้องแพร ไรเดอร์สาวอายุ 20 ปีที่เสียชีวิตขณะขับรถจักรยานยนต์ส่งของ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.66 ได้มาขอความเป็นธรรม เนื่องจากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากคู่กรณีและแพลตฟอร์ม โดยถือเป็นการสูญเสียของครอบครัว เพราะผู้ตายหารายได้จุนเจือครอบครัว และต้องเรียนระดับอุดมศึกษาแต่ต้องเสียชีวิตจากการวิ่งงานเที่ยวแรก

ด้านเจ้าหน้าที่สถาบันแรงงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรรม ได้ให้ข้อมูลกับกระทรวงแรงงานว่า ในปัจจุบันรัฐบาลสิงคโปร์ให้การคุ้มครองคนงานแพลตฟอร์มรวมทั้งไรเดอร์ที่บาดเจ็บเสียชีวิตจาการทำงาน โดยให้กองทุนเงินทดแทนที่แต่ละแพลตฟอร์มต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน เพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าชดเชยให้กับครอบครัวคนงานชีวิต บาดเจ็บ รวมถึงขาดรายได้ เช่นเดียวกับคนงานทั่วไป โดยในเรื่องนี้คาดว่าในปีหน้า จะมีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติกับทุกแพลตฟอร์ม