วันที่ 18 ก.ย. 66 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุมขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเกรียง กัลป์ตินันท์ นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ณ อาคาร Convention Center โรงแรม รามา การ์เด้นส์
พร้อมมอบนโยบายเพื่อเป็นกรอบการทำงาน ขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ทั้ง 10 ด้าน ได้แก่
- การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ รวมไปถึงการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน
- น้ำดื่มสะอาดฟรีลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ขอให้การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปรับภารกิจจากเดิมที่ผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภค (น้ำใช้) ให้เพิ่มการผลิตน้ำประปาสะอาดดื่มได้
- ลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันของทุกส่วนราชการ เน้นการสร้างต้นแบบ ให้ประชาชนได้เห็นตัวอย่างของการใช้พลังงานทางเลือก ด้วยการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Cell / Solar Rooftop ในสถานที่ราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด สนับสนุนให้มีการติดตั้ง พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ในที่อยู่อาศัย เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย กระแสไฟฟ้าให้กับประชาชน รวมไปถึงการเพิ่มรายได้ จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้ให้แก่รัฐ
- จัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ในที่นี้ หมายถึงคนที่ใช้อำนาจที่ตนมีในทางมิชอบ ไม่ว่าจะอำนาจเงิน หรืออำนาจจากสายสัมพันธ์ต่างๆ
- บริการประชาชนแบบ one stop service นำเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ทันสมัยมาใช้ ในการปฏิบัติราชการ การทำธุรกรรม เพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใส
- อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ส่งเสริมให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วางแผนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว โดยบูรณาการจากทุกภาคส่วนในพื้นที่
- เสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาดและการจำหน่าย กำหนดมาตรการเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน เช่น การน้อมนำหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต การใช้ประโยชน์จากทุนชุมชน การพักหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
- แก้ปัญหายาเสพติด ต้องเป็นมาตรการเชิงรุก ต้องเน้นป้องกันไม่ใช่ปราบปราม และต้องกำหนดตัวชี้วัดการดำเนินงานที่ชัดเจน
- สนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุขปฐมภูมิ และการเตรียมความพร้อมท้องถิ่นเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ พร้อมย้ำอยากให้ข้าราชการของกระทรวงมหาดไทยทุกคนเชื่อมั่นในตนเองและร่วมช่วยทำงานไปพร้อมกัน
การที่จะดำเนินการตามนโยบายต่างๆ ได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และบรรดาผู้ว่า CEO (ผู้ว่าราชการจังหวัด) ที่ต้องทันโลก ทันสมัยและทันท่วงที ซึ่งเป็นแนวทางการทำงานที่ได้มอบไว้ตั้งแต่วันแรก (7 ก.ย. 66) ที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ตรงจุด
“ทันโลก” คือ เข้าใจสถานการณ์โลก เพื่อจะรู้ผลกระทบต่อประเทศไทย และปรับตัวได้ทัน สามารถพัฒนายุทธศาสตร์ให้ประเทศของเราสามารถแข่งขันได้ และในยามที่สถานการณ์โลกผันผวน ก็สามารถพึ่งพาตนเองได้
“ทันสมัย” คือ เราต้องเข้าใจบริบทที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะทางเศรษฐกิจหรือสังคม เข้าใจค่านิยมของยุคสมัยใหม่ เพื่อจะสามารถเชื่อมคนทุกรุ่นเข้าด้วยกัน และสามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนางานในทุกด้าน โดยเฉพาะในบริบทที่ประเทศได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยแล้ว การพัฒนาศักยภาพในการผลิตและรายได้ต่อหัวเป็นสิ่งสำคัญ พรรคการเมืองที่จะนำพาประเทศให้พัฒนาได้อย่างยั่งยืน จะต้องสามารถบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
สุดท้าย คำว่า “ทันท่วงที” หมายถึง การตัดสินใจได้อย่างแม่นยำรวดเร็ว ทันสถานการณ์ เพื่อให้รับมือกับ “วิกฤต” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อมี "โอกาส" ก็คว้าได้ทันอยู่เสมอ